The 2-Minute Rule for ปวดหลังส่วนล่าง
Wiki Article
แต่หากเป็นอาการปวดหลังที่ไม่ได้ร้าวหรือชาไปที่บริเวณอื่น กรณีนี้ต้องบอกว่าอาการปวดนั้นเป็นสัญญาณเตือนตามธรรมชาติที่บ่งบอกว่ากำลังมีความผิดปกติกับร่างกาย ไม่ว่าขณะนั้นคุณจะเล่นกีฬา หรือยกของหนักอยู่ ก็ควรต้องหยุดกิจกรรมนั้นๆ ก่อน แล้วรอดูอาการว่าดีขึ้นหรือไม่ เพราะหากปวดแล้วยังฝืนทำต่อก็มีโอกาสเกิดการบาดเจ็บต่อกล้ามเนื้อหรือกระดูกสันหลังมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายได้
ปวดท้องน้อยแบบร้าวๆคล้ายปวดประจำเดือน ปวดลงมาขาและหลัง ฉี่บ่อยมาก เสี่ยงต่อการเปนโรคอะรัยรึป่าวค่ะ
ผู้ป่วยนิ่วในไตควรรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการปวด รวมทั้งดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อลดจำนวนก้อนนิ่วที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ และช่วยให้ขับก้อนนิ่วออกมาจากไตได้ดีขึ้น ผู้ป่วยบางรายอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดก้อนนิ่ว อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยนิ่วในไตส่วนมากมักไม่ต้องรับการผ่าตัด ผู้ที่มีก้อนนิ่วขนาดใหญ่และไม่สามารถขับก้อนนิ่วออกมาได้ อาจต้องได้รับการสลายนิ่วในไตด้วยคลื่นกระแทก โดยแพทย์จะใช้คลื่นเสียงความถี่สูงสลายก้อนนิ่วให้มีขนาดเล็กลงจนสามารถเคลื่อนผ่านทางเดินปัสสาวะออกมาได้ ทั้งนี้ หากเกิดอาการปวดเอวอย่างรุนแรงหรือปวดเอวเรื้อรังหลังรับการรักษา ผู้ป่วยควรพบแพทย์เพื่อปรึกษาทันที
สุขภาพโรคซึมเศร้านอนไม่หลับ ทําไงดีเลือดกําเดาไหล เกิดจากกินฟ้าทะลายกับพาราได้ไหมฝีดาษลิงยุติการตั้งครรภ์ ฟรี
นั่งบนเก้าอี้ที่มีความสูงถูกต้อง ไม่งอหลังมากเกินไป
ทางเลือกการรักษาอาการปวดหลังส่วนโดยแพทย์ มีตั้งแต่การรับประทานยา การทำกายภาพบำบัด และการผ่าตัด โดยมีรายละเอียดดังนี้
ปวดท้องน้อยและปวดเอวลงมาสะโพกละขาค่ะเพราะทำงานหักรึว่ายกของหนักรึเปล่าค่ะ.
การรักษาโดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์เพื่อช่วยในการฟื้นฟู เครื่องมือที่หลากหลายในการลดปวด คลายกล้ามเนื้อ ปวดหลังช่วงเอว เช่น การประคบแผ่นร้อน อัลตราซาวด์ การเลเซอร์ ช็อกเวฟ ฝังเข็ม ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวและลดอาการปวด
ปวดหลังเยื้องออกมาด้านข้าง อาจเกิดจากกล้ามเนื้อหลังมีความผิดปกติ
ตำแหน่งหรือบริเวณที่เกิดอาการปวดเอว
เนื้องอกที่ไต เนื้องอกจะทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มรอบไตหรือรีนัลแคปซูลโตหรือบวมขึ้นมาซึ่งก่อให้เกิดอาการปวดเอวได้ นอกจากนี้ เนื้องอกอาจกดเบียดเส้นเลือดไต ส่งผลให้การไหลเวียนเลือดที่ไตนั้นผิดปกติ ก่อให้เกิดภาวะไตขาดเลือดหรือไตบวมน้ำ
ถ้านวดโดยท่านที่ชำนาญ แล้วอาการปวดหลัง ปวดเอว ดีขึ้น
สาเหตุของโรคนี้อาจเกิดจากการนั่งทำงานนานๆ ในท่าที่ไม่เหมาะสม การบาดเจ็บจากการใช้งานหรือเล่นกีฬา การวิ่งหรือเดินระยะทางไกลๆ เป็นต้น
ตรวจด้วยภาพสแกน แพทย์อาจตรวจผู้ป่วยด้วยภาพสแกน โดยแพทย์จะทำอัลตราซาวด์หรือเอกซเรย์ผู้ป่วยเพื่อดูว่าอวัยวะ เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อภายในร่างกายของผู้ป่วยเกิดความผิดปกติอย่างไร หรือทำซีทีสแกนที่ท้องของผู้ป่วย เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุอาการปวดเอว